เริ่มสงคราม
- 18 มิ.ย. 1950 รัฐบาลเกาหลีเหนือภายใต้การนำของนายคิม อิล ซุง ได้สั่งระดมทหารจากภาคเหนือราว 260000 นาย และประกาศที่จะรวมประเทศเข้าเป็นหนึ่งอีกครั้ง
-19 มิ.ย.1950 โซเวียตเสริมกำลังทหารในเกาหลีเหนืออีก 20000 นายพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์สนับสนุน , จีนเสริมกำลังทหารในเกาหลีเหนืออีก 400000 นายพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์สนับสนุน
-21 มิ.ย. 1950 กองทัพคอมมิวนิตส์(เกาหลีเหนือ โซเวียต จีน) ยกพลเข้าประชิดชายแดนเกาหลีใต้ สหรัฐพยายามที่จะเข้าไกล่เกลี่ยกรณีพิพาทนี้แต่ไม่เป็นผล
-25 มิ.ย. 1950 กองทัพคอมมิวนิตส์ยกพลข้ามเส้นละติจูดที่ 38 เข้าสู่เกาหลีใต้ รัฐบาลเกาหลีใต้ที่นำโดยนาย ซิงมัน ลี ประกาศสงครามกับเกาหลีเหนือทันที
-27 มิ.ย. 1950 กองทัพเกาหลีใต้เพลี่ยงพล้ำครั้งใหญ่ที่บินมุนจอมเพราะฝ่ายคอมมิวนิตส์มี กำลังทหารและอาวุธที่เหนือกว่ามาก
เกาหลีใต้เข้าขั้นวิกฤต
- 30 มิ.ย. 1950 กองทัพคอมมิวนิตส์เข้าตีกรุงโซลแตก บุคคลสำคัญของเกาหลีใต้ต้องไปตั้งรัฐบาลผลัดถิ่นที่เ มืองปูซาน
-3 ก.ค. 1950 สหรัฐอเมริกาและชาติพันธมิตรประกาศให้ความช่วยเหลือแก่เกาหลีใต้ และส่งทหารมาช่วยเกาหลีใต้รบ แต่ก็ไม่ประสบผลเท่าใดนัก เพราะการวางแผนการรบที่ดีของฝ่ายคอมมิวนิตส์(เช่นการเข้าตีตอนกลางคืน การปล้นสดมถ์ เผากองเสบียง) กองทัพพันธมิตรต้องเพลี่ยงพล้ำอย่างหนักที่เมืองจูโน่
-11ก.ค.1950 กองทัพคอมมิวนิตส์ได้ชัยชนะอย่างต่อเนื่องจนขยายแนวรบไปถึงทะเลญี่ปุ่น บัดนี้เกาหลีใต้กำลังจะพ่ายแพ้อย่างราบคาบ นายโจเซฟ สตาลิน ผู้นำโซเวียตถึงกับออกมาประกาศกร้าวว่า ถ้ายึดเกาหลีใต้ได้เมื่อไรจะยกพลข้ามช่องแคบไปแก้แค้นญี่ปุ่นอย่างสาสม
จุดเปลี่ยนของสงคราม
- 20 ก.ค. 1950 รัฐบาลสหรัฐเกรงว่าถ้าฝ่ายคอมมิวนิตส์บุกญี่ปุ่นได้เมื่อไร สงครามนี้ก็จะบานปลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้อย่างไม่ต้องสงสัย จึงออกคำสั่งให้ จอมพลดักลาส แมกอาเธอร์ ผู้บัญชาการที่เก่งที่สุดในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นผู้ที่พิชิตญี่ปุ่นได้ ไปบัญชาการรบช่วยเหลือเกาหลีใต้เป็นการด่วน
-23 ก.ค. 1950 ฝ่ายพันธมิตรสามารถยันกองทัพคอมมิวนิตส์ไว้ได้ที่เมืองเดกู ในสงครามครั้งนี้เป็นการสร้างชื่อให้กับกองทัพไทยอีก ด้วย(ในการรบครั้งนั้น ทหารไทยฆ่าทหารคอมมิวนิตส์ไป 500 นายโดยเสียทหารไทยไปเพียง 25 นายเท่านั้น)
-25 ก.ค. 1950 ฝ่ายพันธมิตรได้รับกำลังเสริมจากสหประชาชาติ และสามารถยันทหารฝ่ายคอมมิวนิตส์ให้ถอยกลับไปที่จูโน่ได้
- 31 ก.ค.1950 ฝ่ายพันธมิตรที่กำลังฮึกเหิมได้เข้ายึดเมืองจูโน่คืนมาได้
-9 ส.ค. 1950 ฝ่ายพันธมิตรเข้ายึดกรุงโซลคืนมาได้
- 15 ส.ค. 1950 ฝ่ายพันธมิตรสามารถขับไล่ฝ่ายคอมมิวนิตส์ให้พ้นกลับขึ้นไปเหนือเส้นละติจูด ที่ 38 ได้เป็นผลสำเร็จ
ฝ่ายพันธมิตรโจมตีกลับ
- 20 ก.ย. 1950 ฝ่ายพันธมิตรบุกข้ามเส้นละติจูดที่ 38 เข้าสู่เกาหลีเหนือ
- 26ก.ย.1950 การต่อสู้ด้วยเครื่องบินเจ็ทครั้งแรกของโลกได้เริ่มต้นขึ้น เมื่อฝ่ายพันธมิตรส่งเครื่องเซเบอร์ เครื่องบินเจ็ทรุ่นสุดของตนเข้าโจมตีพรมแดนระหว่างจีนกับเกาหลีเหนือ เพื่อตัดเส้นทางลำเลียงพลของทหารจีนที่จะเข้าสู่เกาห ลีเหนือ ในตอนนั้นกองทัพคอมมิวนิตส์ไม่เคยมีประสบการณ์ในการต่อกรกับเครื่องบินเจ็ทเลย จึงเสียหายอย่างหนัก
-28 ก.ย. 1950 โซเวียตส่งฝูงบินมิก เครื่องบินเจ็ทรุ่นแรกสุดของตน เข้าจัดการกับฝูงบินเซเบอร์ของฝ่ายพันธมิตร ฝ่ายพันธมิตรที่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าฝ่ายคอมมิวนิตส์จะ มีเครื่องบินเจ็ทเหมือนกันเสียฝูงบินเซเบอร์ไปเกือบทั้งหมด
-3 ต.ค. 1950 ในขณะที่กองทัพอากาศเสียหายอย่างหนัก กองทัพบกของฝ่ายพันธมิตรก็รุกคืบต่อไป ทหารฝ่ายคอมมิวนิตส์กว่า 15000 นายถูกต้อนไปจนมุมที่เมืองอินชอน และพ่ายแพ้ไปในที่สุด
-17 ต.ค. 1950 กองทัพพันธมิตรเข้ายึดกรุงเปียงยางได้สำเร็จ จากนี้ก็เหลือเพียงเก็บกวาดเกาหลีเหนือให้ราบคาบไป
-5 พ.ย. 1950 ฝ่ายพันธมิตรเข้ายึดเมืองทกซินทางตอนเหนือของเกาหลีเหนือ
-10 พ.ย. 1950 ฝ่ายคอมมิวนิตส์ถูกฝ่ายพันธมิตรไล่บดขยี้อย่างหนักจน ถอยร่นขึ้นเหนือถึงชายแดนจีน นายพลแมกอาเทอร์เสนอให้สหรัฐใช้อาวุธนิวเคลียร์ถล่มจีน แต่ข้อเสนอของเขาถูกต่อต้านอย่างรุนแรงจากรัฐบาลสหรัฐ จนเขาถูกเรียกตัวกลับอเมริกาในที่สุด
- 20 ก.ย. 1950 ฝ่ายพันธมิตรบุกข้ามเส้นละติจูดที่ 38 เข้าสู่เกาหลีเหนือ
- 26ก.ย.1950 การต่อสู้ด้วยเครื่องบินเจ็ทครั้งแรกของโลกได้เริ่มต้นขึ้น เมื่อฝ่ายพันธมิตรส่งเครื่องเซเบอร์ เครื่องบินเจ็ทรุ่นสุดของตนเข้าโจมตีพรมแดนระหว่างจีนกับเกาหลีเหนือ เพื่อตัดเส้นทางลำเลียงพลของทหารจีนที่จะเข้าสู่เกาห ลีเหนือ ในตอนนั้นกองทัพคอมมิวนิตส์ไม่เคยมีประสบการณ์ในการต่อกรกับเครื่องบินเจ็ทเลย จึงเสียหายอย่างหนัก
-28 ก.ย. 1950 โซเวียตส่งฝูงบินมิก เครื่องบินเจ็ทรุ่นแรกสุดของตน เข้าจัดการกับฝูงบินเซเบอร์ของฝ่ายพันธมิตร ฝ่ายพันธมิตรที่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าฝ่ายคอมมิวนิตส์จะ มีเครื่องบินเจ็ทเหมือนกันเสียฝูงบินเซเบอร์ไปเกือบทั้งหมด
-3 ต.ค. 1950 ในขณะที่กองทัพอากาศเสียหายอย่างหนัก กองทัพบกของฝ่ายพันธมิตรก็รุกคืบต่อไป ทหารฝ่ายคอมมิวนิตส์กว่า 15000 นายถูกต้อนไปจนมุมที่เมืองอินชอน และพ่ายแพ้ไปในที่สุด
-17 ต.ค. 1950 กองทัพพันธมิตรเข้ายึดกรุงเปียงยางได้สำเร็จ จากนี้ก็เหลือเพียงเก็บกวาดเกาหลีเหนือให้ราบคาบไป
-5 พ.ย. 1950 ฝ่ายพันธมิตรเข้ายึดเมืองทกซินทางตอนเหนือของเกาหลีเหนือ
-10 พ.ย. 1950 ฝ่ายคอมมิวนิตส์ถูกฝ่ายพันธมิตรไล่บดขยี้อย่างหนักจน ถอยร่นขึ้นเหนือถึงชายแดนจีน นายพลแมกอาเทอร์เสนอให้สหรัฐใช้อาวุธนิวเคลียร์ถล่มจีน แต่ข้อเสนอของเขาถูกต่อต้านอย่างรุนแรงจากรัฐบาลสหรัฐ จนเขาถูกเรียกตัวกลับอเมริกาในที่สุด
เหตุการณ์ที่ผลิกผันอีกครั้ง
- 1 ธ.ค. 1950 จีนส่งทหารกว่า 500000 นายเข้าสู่เกาหลีเหนือที่กำลังจะพ่ายแพ้ และนี่ก็คือจุดเปลี่ยนที่สำคัญอีกครั้ง
- 16 ธ.ค. 1950 กองทัพคอมมิวนิตส์ที่กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งเข้าขับไล่ทหารพันธมิตรออกไปจากภาคเหนือของเกาหลีเหนือ
- 27 ธ.ค. 1950 ฝ่ายคอมมิวนิตส์ยึดเปียงยางคืนมาได้
- 31 ธ.ค. 1950 ฝ่ายคอมมิวนิตส์ขับไล่ทหารพันธมิตรให้พ้นไปจากเส้นขนานที่ 38 ได้สำเร็จ และเตรียมตัวบุกเกาหลีใต้อีกครั้ง
- 1 ธ.ค. 1950 จีนส่งทหารกว่า 500000 นายเข้าสู่เกาหลีเหนือที่กำลังจะพ่ายแพ้ และนี่ก็คือจุดเปลี่ยนที่สำคัญอีกครั้ง
- 16 ธ.ค. 1950 กองทัพคอมมิวนิตส์ที่กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งเข้าขับไล่ทหารพันธมิตรออกไปจากภาคเหนือของเกาหลีเหนือ
- 27 ธ.ค. 1950 ฝ่ายคอมมิวนิตส์ยึดเปียงยางคืนมาได้
- 31 ธ.ค. 1950 ฝ่ายคอมมิวนิตส์ขับไล่ทหารพันธมิตรให้พ้นไปจากเส้นขนานที่ 38 ได้สำเร็จ และเตรียมตัวบุกเกาหลีใต้อีกครั้ง
ฝ่ายคอมมิวนิตส์บุกเกาหลีใต้อีกครั้ง
- 12 ม.ค. 1951 ฝ่ายคอมมิวนิตส์บุกเกาหลีใต้อีกครั้ง และเข้าประชิดกรุงโซลอย่างรวดเร็ว
- 28 ม.ค. 1951 ฝ่ายคอมมิวนิตส์ยึดกรุงโซลได้ ฝ่ายพันธมิตรต้องถอยไปที่จูโน่
- 3 มิ.ย. 1951 ฝ่ายคอมมิวนิตส์เข้ายึดจูโน่ได้อีกครั้ง
- 4 มิ.ย.1951 ถึง 23 มี.ค. 1953 ฝ่ายคอมมิวนิตส์พยายามรุกคืบไปให้ถึงปูซาน แต่ฝ่ายพันธมิตรเข้าต่อต้านอย่างสุดสามารถ การรบติดพันกันที่ภาคกลางของเกาหลีใต้กว่า 1 ปี จนกระทั่งสหประชาชาติส่งกองหนุนเข้าไปในเกาหลีใต้อีก ครั้ง
- 12 ม.ค. 1951 ฝ่ายคอมมิวนิตส์บุกเกาหลีใต้อีกครั้ง และเข้าประชิดกรุงโซลอย่างรวดเร็ว
- 28 ม.ค. 1951 ฝ่ายคอมมิวนิตส์ยึดกรุงโซลได้ ฝ่ายพันธมิตรต้องถอยไปที่จูโน่
- 3 มิ.ย. 1951 ฝ่ายคอมมิวนิตส์เข้ายึดจูโน่ได้อีกครั้ง
- 4 มิ.ย.1951 ถึง 23 มี.ค. 1953 ฝ่ายคอมมิวนิตส์พยายามรุกคืบไปให้ถึงปูซาน แต่ฝ่ายพันธมิตรเข้าต่อต้านอย่างสุดสามารถ การรบติดพันกันที่ภาคกลางของเกาหลีใต้กว่า 1 ปี จนกระทั่งสหประชาชาติส่งกองหนุนเข้าไปในเกาหลีใต้อีก ครั้ง
การเจรจาหยุดยิง
- 30 มี.ค. 1953 ฝ่ายพันธมิตรเข้าผลักดันฝ่ายคอมมิวนิตส์ขึ้นเหนือ
- 20 มิ.ย. 1953 ฝ่ายพันธมิตรเข้ายึดกรุงโซลคืนได้
- 2 ก.ค. 1953 ฝ่ายพันธมิตรขับไล่ทหารคอมมิวนิตส์ให้พ้นเส้นขนานที่ 38 ไปได้สำเร็จ
- 27 ก.ค. 1953 ทั้งสองฝ่ายเจรจาหยุดยิงกัน
- 30 มี.ค. 1953 ฝ่ายพันธมิตรเข้าผลักดันฝ่ายคอมมิวนิตส์ขึ้นเหนือ
- 20 มิ.ย. 1953 ฝ่ายพันธมิตรเข้ายึดกรุงโซลคืนได้
- 2 ก.ค. 1953 ฝ่ายพันธมิตรขับไล่ทหารคอมมิวนิตส์ให้พ้นเส้นขนานที่ 38 ไปได้สำเร็จ
- 27 ก.ค. 1953 ทั้งสองฝ่ายเจรจาหยุดยิงกัน
สรุปความเสียหาย
ฝ่ายคอมมิวนิตส์
ทหารเกาหลี เหนือเสียชีวิต 215,000 นาย บาดเจ็บ 303,000 นาย สูญหาย 120000 นาย
ทหาร จีนเสียชีวิต 148000 นาย บาดเจ็บ 380000 นาย สาบสูญ 2140 นาย
ทหารรัส เซียเสียชีวิต 282 นายฝ่ายพันธมิตร
ทหารเกาหลีใต้เสียชีวิต 137,899 นาย บาดเจ็บ 450,742 สาบสูญ 32,838
ทหารอเมริกันเสียชีวิต 36,516 นาย บาดเจ็บ 92,134 สาบสูญ 8,176
ทหารชาติอื่นๆเสียชีวิตรวม 200000 นาย
ยอดรวมพลเมืองที่เสียชีวิต/บาดเจ็บ: 2.5 ล้าน (ประมาณการ)
เกาหลีใต้: 990,968
373,599 เสียชีวิต
229,625 บาดเจ็บ
387,744 ถูกลักพาตัว/หายสาบสูญ
เกาหลีเหนือ: 1,550,000 (ประมาณการ)
ฝ่ายคอมมิวนิตส์
ทหารเกาหลี เหนือเสียชีวิต 215,000 นาย บาดเจ็บ 303,000 นาย สูญหาย 120000 นาย
ทหาร จีนเสียชีวิต 148000 นาย บาดเจ็บ 380000 นาย สาบสูญ 2140 นาย
ทหารรัส เซียเสียชีวิต 282 นายฝ่ายพันธมิตร
ทหารเกาหลีใต้เสียชีวิต 137,899 นาย บาดเจ็บ 450,742 สาบสูญ 32,838
ทหารอเมริกันเสียชีวิต 36,516 นาย บาดเจ็บ 92,134 สาบสูญ 8,176
ทหารชาติอื่นๆเสียชีวิตรวม 200000 นาย
ยอดรวมพลเมืองที่เสียชีวิต/บาดเจ็บ: 2.5 ล้าน (ประมาณการ)
เกาหลีใต้: 990,968
373,599 เสียชีวิต
229,625 บาดเจ็บ
387,744 ถูกลักพาตัว/หายสาบสูญ
เกาหลีเหนือ: 1,550,000 (ประมาณการ)


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น